เพลงยุคBaroque ซึ่งเอกลักษณ์ของเพลงนี้ต้องcopyเสียงharpsichord ซึ่งมีlimit rangeในการดีด(harpsichordไม่กว้างเหมือนเปียโน, touchingเเละเสียงที่ออกมาเวลาดีดก็เเตกต่างจากเปียโนเช่นกัน) ซึ่งลักษณะeighth notesพอกดครบจังหวะเเล้วต้องทําให้detached ซึ่งโน๊ตพวกนี้ต้องกดเปียโนในเเบบvertical เเต่ตัวที่เป็นslurหรือเป็นsixteenth notesเล่นต่อกันได้ เเละกดเป็นเเนวhorizontal ลักษณะเพลงยุคBaroqueส่วนมาก เป็นเเบบpolyphonic texture คือเหมือนมีmelody lineวิ่งอยู่อิสระทั้งมือขวา(treble clef)เเละมือซ้าย(bass clef)ซึ่งmelodyที่วิ่งๆไปจะมีหลายๆเเนว เช่น two parts, three parts, four parts (ex.นักประพันธ์เพลงยุคนี้ที่ดังๆได้เเก่ J.S.Bach) (ซึ่งถ้าสอบเกรดเปียโน ABRSM เพลงยุคนี้จะอยู่ใน Group A)
เพลงยุคClassic เพลงยุคนี้จะอยู่ระหว่างยุคBaroqueกับยุคRomantic, ลักษณะเพลงเกือบทั้งหมดจะเป็นเเบบHomophonic texture คือมือนึงกดเป็นMelody อีกมือจะเล่นเป็นChord(harmony accompaniment)เข้าร่วม ซึ่งมือที่เล่นเป็นmelodyต้องเล่นให้ชัดเเละดังกว่ามือที่เล่นเป็นchord accompaniment, ซึ่งยุคนี้harpsichordจะเริ่มถูกเเทนที่ด้วยpianoเเล้ว ซึ่งpianoสามารถทําเสียงดังเบาเเละใส่expressionตอนperformได้มากกว่าharpsichord เเละมีเเป้นที่ใช้กด(range)ที่กว้างกว่าharpsichord (ex.นักประพันธ์เพลงยุคนี้ที่ดังๆได้เเก่ Mozart, Beethoven) (ซึ่งถ้าสอบเกรดเปียโน ABRSM เพลงยุคนี้จะอยู่ใน Group A)
เพลงยุคRomanticเป็นยุคต่อจากClassic ซึ่งเพลงมีลักษณะexpressive and emotionalมากกกว่ายุคก่อนหน้านี้ เเละลักษณะการดีดเปียโนจะกดเป็นเเนวhorizontalซะส่วนมาก โดยเฉพาะโน๊ตที่ต้องเล่นเป็นslurที่ต้องเล่นให้เป็นประโยคเพลง จะใช้pedalเยอะขึันมากกว่ายุคก่อนหน้านี้เพื่อให้เสียงต่อกัน ลักษณะเพลงส่วนมากยังเป็นเเบบhomophonic textureอยู่ เเต่เพลงจะต้องกดให้ต่อเนื่องกันมากขึ้น โรเเมนติคๆไพเราะๆมากขึ้น เเละมีemotionalมีความซาบซึ้งให้เยอะขึ้น ซึ่งนักประพันธ์บางคนก็ลากยาวมาจากยุคคลาสสิคเเละช่วงบั้นปลายชีวิตก็มาเเต่งเพลงโรเเมนติค เช่นBeethoven เป็นต้น (ex.นักประพันธ์เพลงยุคนี้ที่ดังๆได้เเก่ Chopin) (ซึ่งถ้าสอบเกรดเปียโน ABRSM เพลงยุคนี้จะอยู่ใน Group B)